ลองนึกภาพแผงไฟฟ้าในบ้านของคุณเป็นเหมือนตัวควบคุมไฟฟ้าที่คอยส่งกระแสไฟฟ้าไปยังทุกห้อง ป้องกันไม่ให้เกิด "ปัญหาไฟดับ" (เช่น โหลดเกินจนอาจเกิดเพลิงไหม้) และช่วยให้ทุกอย่างปลอดภัยและราบรื่น ลองมาอธิบายการทำงานของมันแบบง่ายๆ กัน
การเดินทางของพลัง
ไฟฟ้าเริ่มต้นจากที่ไกลๆ โดยทั่วไปจะอยู่ที่โรงไฟฟ้า จากจุดนั้น ไฟฟ้าจะวิ่งผ่านสายไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่คุณอาจเห็นวางพาดผ่านเสาไฟฟ้า เพื่อให้ไฟฟ้านี้ปลอดภัยสำหรับใช้ในบ้าน ไฟฟ้าจะผ่านหม้อแปลงไฟฟ้าที่ค่อยๆ ลดแรงดันไฟฟ้าลง ลองนึกภาพว่าเหมือนกับการค่อยๆ อุ่นกาแฟร้อนสักแก้วเพื่อไม่ให้น้ำร้อนลวก เมื่อไฟฟ้ามาถึงบ้านของคุณ ไฟฟ้าจะอยู่ที่ระดับ 120V หรือ 240V ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดโดยไม่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไหม้
เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลเข้าบ้านคุณแล้ว จะไหลเข้ามิเตอร์ (ซึ่งวัดปริมาณไฟฟ้าที่คุณใช้) แล้วจึงไหลเข้าแผงเบรกเกอร์ ซึ่งปกติจะพบในห้องใต้ดิน โรงรถ หรือตู้เก็บของอเนกประสงค์ แผงนี้มีลักษณะเป็นกล่องสีเทาเรียบๆ แต่แท้จริงแล้วคือสำนักงานใหญ่ด้านไฟฟ้าของคุณ ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังทุกส่วนของบ้าน
ภายในแผง: เบรกเกอร์และวงจร
เมื่อเปิดแผง (อย่างระมัดระวัง!) คุณจะเห็นเบรกเกอร์หลักอยู่ด้านบน เบรกเกอร์นี้เปรียบเสมือนสวิตช์หลักของบ้านทั้งหลัง ปิดสวิตช์นี้ ไฟบ้านก็จะดับสนิท
ด้านล่าง คุณจะเห็นสวิตช์ขนาดเล็กเรียงเป็นแถว ซึ่งก็คือเบรกเกอร์วงจรแต่ละตัว แต่ละอันจะควบคุมพื้นที่หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักๆ ในบ้านของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณอาจมีสวิตช์ตัวหนึ่งสำหรับห้องครัว ตัวหนึ่งสำหรับไฟในห้องนั่งเล่น และอีกตัวสำหรับเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะ ทำไมต้องแยกวงจรด้วยล่ะ? ถ้าพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งมีไฟเกิน จะมีเพียงเบรกเกอร์ตัวนั้นเท่านั้นที่จะตัด เพื่อป้องกันไฟฟ้าดับทั่วทั้งบ้าน ฉลาดใช่มั้ยล่ะ?
ทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับไฟฟ้าภายในบ้าน
ก่อนที่เราจะไปต่อ เรามาทบทวนคำศัพท์สั้นๆ กันก่อน:
- แรงดันไฟฟ้า:“แรงผลัก” ที่ขับเคลื่อนกระแสไฟฟ้าผ่านสายไฟ
- ปัจจุบัน:กระแสไฟฟ้า วัดเป็นหน่วยแอมแปร์ ลองนึกถึงปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสายยางดูสิ
- พลัง:การไหลของพลังงานทั้งหมด คำนวณจากแรงดันไฟฟ้า x กระแสไฟฟ้า วัดเป็นวัตต์ ยิ่งดัน + ยิ่งไหล = กำลังมากขึ้น!
- พลังงาน:พลังงานที่ใช้ไปในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งคุณจ่ายเป็นกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)
การเข้าใจคำศัพท์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไมขีดจำกัดของแผงโซลาร์เซลล์ (วัดเป็นโวลต์และแอมป์) จึงมีความสำคัญ กำลังไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดมีความสำคัญ เพราะค่าไฟฟ้าของคุณขึ้นอยู่กับจำนวนกิโลวัตต์ชั่วโมงที่คุณใช้ การรู้สิ่งนี้จะช่วยให้คุณบริหารจัดการพลังงานในบ้านได้ดีขึ้น!
เบรกเกอร์ในการใช้งาน: ความปลอดภัยต้องมาก่อน!
สมัยก่อน บ้านเรือนจะมีฟิวส์ที่ขาดเมื่อวงจรไฟฟ้ามีโหลดเกิน แต่ปัจจุบันเบรกเกอร์ทำงานได้ดีกว่า มันไม่ขาด แต่มันจะ "สะดุด" เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า การรีเซ็ตเบรกเกอร์นั้นง่ายมาก เพียงแค่ปิดสวิตช์แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง

บ้านใหม่มักมาพร้อมกับแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 200 แอมป์เพื่อรองรับความต้องการในปัจจุบัน แต่ถ้าคุณอาศัยอยู่ในบ้านเก่าที่มีแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 100 แอมป์ การเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ (เช่น เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า) อาจจำเป็นต้องอัปเกรดแผงโซลาร์เซลล์ หากเบรกเกอร์หลักของคุณทำงานบ่อย ควรตรวจสอบว่าจำเป็นต้องอัปเกรดหรือไม่
แล้วถ้าคุณกำลังขยายบ้านแต่ไม่อยากเปลี่ยนแผงทั้งหมดล่ะ? ช่างไฟฟ้าสามารถเพิ่มแผงย่อยเพื่อให้มีวงจรไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้ โดยไม่ต้องเพิ่มกำลังไฟโดยรวม
Grus Home Energy Monitor เปลี่ยนเกมได้อย่างไร
ทีนี้มาพูดถึงวิธีที่ Grus ทำให้แผงควบคุมของคุณฉลาดขึ้น Grus Home Energy Monitor ทำงานเหมือนนักสืบ ติดตามไฟฟ้าทุกวัตต์ที่ไหลผ่านแผงควบคุมของคุณ ตัวตรวจจับจะติดเข้ากับสายไฟหลักภายในแผงควบคุม และอ่านกระแสไฟฟ้าได้หนึ่งล้านครั้งต่อวินาที
ด้วยแอป Grus Home Energy คุณจะสามารถดูว่าอุปกรณ์ของคุณใช้พลังงานอย่างไรและเมื่อใด อยากรู้ไหมว่าทำไมค่าไฟเดือนที่แล้วถึงพุ่งสูงขึ้น? เปิดแอปเลย! ตู้เย็นเก่าของคุณกินไฟมากเกินไปหรือเปล่า? แอปจะบอกคุณเอง
ตัวการสำคัญที่มักทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานในบ้านคือ "พลังงานแวมไพร์" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่กินไฟแม้ในขณะที่ปิดเครื่องอยู่ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องเล่นเกม ทีวี และที่ชาร์จ จะยังคงกินไฟต่อไปแม้ในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน Grus จะช่วยให้คุณตรวจจับแวมไพร์เหล่านี้ได้ ช่วยให้คุณจัดการพวกมันและประหยัดค่าไฟได้
เกร็ดน่ารู้: งานวิจัยในปี 2015 พบว่า "แวมไพร์พลังงาน" ใช้พลังงานในบ้านมากถึง 25% ดังนั้นการกำจัดแวมไพร์เหล่านี้อาจช่วยประหยัดทั้งกระเป๋าเงินและโลกได้!
ความอุ่นใจยิ่งขึ้นเมื่อคุณไม่อยู่บ้าน
Grus ไม่เพียงแต่ช่วยคุณประหยัดเงิน แต่ยังช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลอีกด้วย แอปนี้จะช่วยให้คุณรู้ได้หากลืมปิดเตา หรือหากประตูตู้เย็นปิดไม่สนิท คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น มีการใช้ไฟฟ้าแรงสูงในขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เสมือนมีสายตาคู่หนึ่งคอยดูแลบ้านคุณ แม้ในขณะที่คุณอยู่ไกลออกไป

Grus ทำงานกับการตั้งค่าแผงควบคุมที่แตกต่างกัน
Grus ก็ใช้งานได้หลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะมีระบบแยกส่วนขนาดสูงสุด 300 แอมป์ แผงย่อย หรือแผงฝัง Grus ก็มีตัวเลือกเซ็นเซอร์ให้เลือกมากมาย ออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับแผงเกือบทุกรูปแบบ ทำให้เป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่นไม่ว่าคุณจะมีการตั้งค่าแบบใดก็ตาม